ปัจจุบันตลาดครีมกันแดดในประเทศไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และการแข่งขันที่ก็สูงขึ้นมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้น อีกทั้งการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ครีมกันแดด จึงจัดเป็นสินค้าที่ยอดนิยม ตัวหนึ่งที่ผู้สนใจธุรกิจเครื่องสำอาง สนใจผลิตครีมกันแดด กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ สามารถจำหน่ายได้ง่าย ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย แน่นอนเมื่อความต้องการสูง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง การเลือกโรงงาน OEM เพื่อ ผลิตครีมกันแดด ก็เป็นเรื่องหนักใจ เพราะคงไม่มีใครอยากเปลี่ยนหรือย้ายโรงงานบ่อยๆ แล้ว แล้วควรเลือก Partner โรงงานไหน ถึงได้สินค้าถูกใจ และ สามารถแข่งขันได้ วันนี้เรามี checklist เลือกโรงงาน เพื่อ สร้างแบรนด์ครีมกันแดด เบื้องต้น มาฝากค่ะ

1. Certified with international standards มาตรฐานโรงงานผลิต

การผลิต สร้างแบรนด์ครีมกันแดด นั้นคุณภาพสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราสามารถตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ จากใบรับรองต่างๆ เพื่อมั่นใจในคุณภาพ ขั้นแรก คือควรเลือก โรงงาน ผลิตครีมกันแดด ได้รับการรับรองมาตรฐานเป็นสากล ใบรับรองหลักๆ ที่ควรมี เช่น ISO / ASEAN GMP หรือบางโรงงาน อาจมีใบรับรองอื่นๆ และรางวัลอื่นๆที่อ้างอิงได้ เพิ่มเติมด้วย ซี่งจะช่วยบอกถึงความน่าเชื่อถือทั้งของโรงงาน และคุณภาพของสินค้าที่ผลิตออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้ใช้

วิธีการตรวจสอบ : https://www.fda.moph.go.th/sites/Cosmetic/Shared%20Documents/GMP%20List/รายชื่อบริษัทที่ได้รับ%20GMP17-11-2564.pdf

2.Profression เลือกโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวนั้นมีความหลากหลาย แต่ละโรงงาน จะมีความถนัดหรือประสบการณ์ หรือความเชี่ยวชาญผลิตสินค้าไม่เหมือนกัน เช่นบางโรงงานถนัดผลิตสบู่โดยเฉพาะก็อาจไม่ถนัด สกินแคร์หรือ ผลิตครีมกันแดด เป็นต้น แต่ถ้าหาก ได้โรงงานมีความถนัดที่หลากหลายก็จะยิ่งดี เพราะหากเราอยากขยายเพิ่มไลน์สินค้า ก็สามารถใช้บริการจบ โรงงานเดียวไปได้ ซึ่งเราอาจตรวจสอบความชำนาญของโรงงานได้ ตั้งแต่ การพูดคุยก่อนเริ่มการผลิต ดูความเชี่ยวชาญจากการให้คำแนะนำรายละเอียดต่างๆ ในด้าน การผลิตครีมกันแดด ได้อย่างครบถ้วนชัดเจน แม่นยำ รวมถึงขอดูตัวอย่างสินค้าที่โรงงานมีหรือ เคยผลิต หากมีความ ความหลากหลายของสินค้าเช่น มี หลายหลายเนื้อ มีเฉดสี และมีคอนเซฟให้เลือกหลากหลาย ย่อมแสดงถึงความเชี่ยวชาญ หรือหากโรงงาน มีชื่อเสียง และการบอกต่อ เช่นมีรีวิวจากเวปที่น่าเชื่อถือ มีแบรนด์ที่เคยผลิต จำหน่าย แล้วประสบความสำเร็จ จำนวนมากย่อมแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ในการ ผลิตครีมกันแดด ของโรงงานมากขึ้นค่ะ

3. Unique product

นอกจากสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว คงจะดีไม่น้อย หากโรงงานมีทีมนักวิจัยหรือ R&D ที่สามารถคิดค้นสูตร ที่เป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์คุณได้ ก็จะสามารทำสูตรและ ผลิตครีมกันแดด ที่มีความโดดเด่น และไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่นได้ เพราะนั้น หมายถึง คุณจะเป็น เจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดที่แตกต่าง มีโอกาสในการขาย ขยายตลาดมากขึ้น

โดยในส่วนนี้โรงงาน ต้องมีนักวิจัยสูตรเครื่องสำอางที่ มีความรอบรู้ และประสบการณ์สูงจึง จึงสามารถจะสามารถพัฒนาสูตรได้หลากหลาย และแตกต่าง ตรงตามความต้องการผู้ลงทุน ความต้องการของตลาด

4. One Stop Service

การเลือกโรงงาน ผลิตครีมกันแดด ที่มีการบริการทุกขั้นตอนการผลิต แบบ one stop service เพื่อประหยัดเวลา ลดความเสี่ยง และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ ต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องการจดแจ้งเครื่องสำอางตามกฎหมาย การจัดหาติดตามบรรจุภัณฑ์ การออกแบบ และการขอออกเอกสารต่างๆ รับรองต่างๆ ที่สนับสนันการขาย เช่นการขอเครื่องหมายการค้า ตรวจวิเคราะห์ SPF หรือขอเอกสารรับรองเพื่อการส่งออก เพื่อให้คุณมีเวลาไปใช้กับการวางแผนการขายและการตลาดสร้างแบรนด์ครีมกันแดดใด้เต็มที่

5. Product Innovation

เนื่องจากครีมกันแดดเป็นสินค้า ที่หวังผลด้านการปกป้องผิวจากแสงแดด เป็นหลัก การวัดประสิทธิภาพ ของครีมกันแดด จึงไม่สามารถใช้ความรู้สึก เช่นรู้สึกถึงความนุ่มนวลหรือผิวกระจ่างใสได้แบบใน Skincare ทั่วไป ครีมกันแดดที่ดีจะต้อง ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผิงหนังจากแสงแดด หรือ รังสียูวี ได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงตามที่เคลมบนฉลาก(SPF/PA) ดังนั้นการ ผลิตครีมกันแดด นอกจากการคัดสรรวัตถุดิบ หรือสารสกัดที่คุณภาพ หรือมีงานวิจัยรองรับในประสิทธิภาพแล้ว โรงงาน ผลิตครีมกันแดด ที่สามารถสร้างสรรนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีการ ผลิตครีมกันแดด ที่ดีได้ จะทำให้ได้ครีมกันแดดที่มีเนื้อสัมผัสที่ดี และมีสีที่สม่ำเสมอ ในทุกล็อตการผลิต และยังคงประสิทธิภาพที่ดี ในการป้องกันสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม แม้ในกิจจกรรมที่ต้องออกแดดจัด หรือ กิจกรรทางน้ำ ตามคุณบัติครีม ของกันแดด นั้นๆ ที่รับรองไว้กับผู้ใช้บนฉลาก และตามข้อกำหนดของสำนักงานอาหารและยา(อ.ย) เราสามารถ ขอให้โรงงาน รับผลิตครีมกันแดด ส่งวัดประสิทธิภาพ ในการป้องกันยูวี (SPF/PA) และป้องกันน้ำ (Water resistance) ได้จากหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้ออกรับการรับรอง (จะมีค่าใช้จ่าย 6000 -15000 บาท ) แต่ ในขั้นตอนแรกในการประเมินเลือกโรงงาน อาจตรวจสอบได้จาก รางวัลคุณคุณภาพ ที่ได้โรงงานได้รับ หรือได้รับรอง หรืออ้างอิงได้ เช่น รางวัล The Prime Minister’s Industry Award (PMI Innovative Technology Management) * ก็จะสร้างความมั่นใจในเบื้องต้นได้ค่ะ

* Note : รางวัล The Prime Minister’s Industry Award (PMI) คือ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น สาขาการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม เป็นหนึ่งในรางวัลคุณภาพที่ออกโดยภาครัฐ ออก โดย กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นรางวัลที่มอบให้กับ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ภาคการผลิต) ที่มีการคิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ในองค์กร หรือมีการการนําเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต ปรับปรุง พัมนาผลิตภัณฑ์ ทําให้เกิดผลิตภัณฑ์ ที่ความโดดเด่นและแตกต่าง นวัตกรรมใหมที่ตอบสนองลูกค้า หรือการจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

เอาละค่ะ ได้ Checklist เบื้องต้น สำหรับการ เลือกโรงงาน OEM ผลิตครีมกันแดด กันแล้ว ใครที่กำลังมองหาโรงงาน ผลิตครีมกันแดด ลองนำสิ่งเหล่านี้ไปพิจารณาก่อนตัดสันใจเลือกโรงงาน เพราะ การเลือก partner ดีๆ ตั้งแต่แรก จะช่วยส่งเสริมแบรนด์ของคุณให้เติบโตระยะยาว สนใจสร้างแบรนด์ครีมกันแดด ของคุณ ติดต่อ พรีมา แคร์ได้ในทุกช่องทาง