คลีนซิ่ง (Cleansing) หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ช่วยขจัดเครื่องสำอางและความสกปรกบนผิวหน้า ไอเท็มสำคัญสำหรับสาวๆที่ขาดไม่ได้ แม้ว่าสาวๆบางท่านอาจจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็จำเป็นต้องใช้เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรก มลภาวะ ฝุ่นควันต่างๆที่พบเจอในแต่ละวัน ซึ่งคลีนซิ่งมีมากมายหลายประเภทให้เลือกใช้สาวๆจึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพผิวของแต่ละคน เพราะถ้าเลือกไม่ดีอาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน การระคายเคืองแก่ผิว และเกิดสิวได้ คลีนซิ่งที่ดีเหมาะกับสภาพผิวนอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้เหมาะสมแล้ว ยังช่วยลดการเหี่ยวย่น ชะลอริ้วรอย ช่วยขจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อีกด้วย วันนี้พรีมา แคร์ ชวนมาดู 5 ประเภทคลีนซิ่งยอมนิยมเพื่อให้เลือกใช้ได้ตามแต่ละสภาพผิวของทุกคน  และเป็นไอเดีย สำหรับท่านที่กำลังหาคอนเซ็ปต์เพื่อจ้างโรงงานผลิตคลีนซิ่งได้ตรงใจ

1. Cleansing water คลีนซิ่งน้ำ

คลีนซิ่งยอดนิยม ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เริ่ม ผลิตคลีนซิ่งน้ำ เป็นแบบแรกออกสู่ตลาด เพราะใช้ง่าย สะดวก มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิว หรือแบบช่วยเพิ่มความกระจ่างใส แล้วแต่ยี่ห้อ วิธีใช้ให้เทคลีนซิ่งลงบนสำลีแล้วเช็ดเบาๆที่ผิวหน้า เช็ดจนกว่าจะไม่ทิ้งคราบสกปรกไว้บนสำลี

เหมาะสำหรับ ผิวมัน ผู้ที่แต่งหน้าน้อยหรือไม่ได้แต่งหน้าเพื่อทำความสะอาดฝุ่น ควัน มลภาวะต่างๆ

ข้อดี ทำความสะอาดง่าย ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้า บางยี่ห้อไม่ต้องล้างหน้าซ้ำเลย

ข้อเสีย ประสิทธิภาพสำหรับทำความสะอาดเครื่องสำอางที่กันน้ำได้อาจจะไม่ดีพอ บางยี่ห้ออาจทำให้ผิวหน้าแห้งตึงได้ บางยี่ห้อทิ้งความเหอะหนะไว้บนผิวหน้าหลังใช้

2. Cleansing Milk คลีนซิ่งน้ำนมหรือเนื้อโลชั่น

คลีนซิ่งน้ำนมมีลักษณะเหลวคล้ายน้ำนม หรือโลชั่น เป็นการประสานกันระหว่างน้ำและน้ำมัน มีความอ่อนโยนและชุ่มชื้นเป็นพิเศษ สามารถใช้ได้ 2 วิธี คือเทคลีนซิ่งน้ำนมบนผิวหน้าแล้วนวด จากนั้นใช้สำลีเช็ดออกอีกที หรือเทคลีนซิ่งลงบนสำลีจากนั้นเช็ดเครื่องสำอางบนผิวหน้าได้เลย

เหมาะสำหรับ ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เป็นสิวง่าย

ข้อดี มีความอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ ให้ความชุ่มชื้นทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นได้ด้วย

ข้อเสีย เนื้อมีความเหลว อาจทำให้ไหลเลอะเทอะง่าย

3. Cleansing Gel คลีนซิ่งเจล

เนื้อคลีนซิ่งจะเป็นเนื้อใสๆหรือบางทีเป็นเนื้อเจลขุ่นๆแล้วแต่ยี่ห้อ ใช้โดยบีบลงบนผิวหน้าแล้วค่อยๆนวดเบาๆบริเวณผิวหน้าขณะหน้าแห้ง 1 รอบ และผสมน้ำนิดหน่อยหลังนวดเสร็จนวดวนๆต่ออีก 1 รอบ จากนั้นใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดเป็นรอบสุดท้าย ซึ่งบางยี่ห้ออาจทิ้งความมันไว้บนผิว บางยี่ห้ออาจจะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงเกินไปหลังใช้ ต้องเลือกดีๆ

เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว

ข้อดี ใช้แล้วผิวไม่ตึง หลังใช้รู้สึกผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ล้างออกง่าย

ข้อเสีย ประสิทธิภาพสำหรับทำความสะอาดเครื่องสำอางที่กันน้ำได้อาจไม่ดีพอ

4. Cleansing Cream คลีนซิ่งครีม

เนื้อสัมผัสของคลีนซิ่งครีมจะมีความเข้มข้นแต่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก เหมาะสำหรับผู้ที่แต่งหน้าหนักหรือใช้เครื่องสำอางกันน้ำ วิธีใช้ นำคลีนซิ่งทาลงบนผิวหน้าแล้วนวดวนๆทั่วใบหน้า จากนั้นล้างตามด้วยน้ำสะอาดเพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกให้หมดจด

เหมาะสำหรับ คนผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

ข้อดี ทำความสะอาดล้ำลึกด้วยเนื้อครีมเข้มข้น

ข้อเสีย ไม่เหมาะกับคนผิวมัน คลีนซิ่งมีความเหนียวเหนอะหนะ อาจทำให้เกิดการอุดตันได้

5. Cleansing Balm คลีนซิ่งบาล์ม

คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing Balm) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีเนื้อสัมผัสเป็นบาล์มนุ่มๆ ที่ใช้น้ำมันและสารให้ความชุ่มชื้นในการละลายเมคอัพ โดยจะกลายเป็นน้ำมันเมื่อนวดลงบนผิว และจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ สามารถละลายเมคอัพ ทำความสะอาดสิ่งสกปรก ฝุ่น ควัน มลภาวะได้อย่างหมดจดโดยไม่ต้องใช้สำลี ปัจจุบันมีการพัฒนาต่อยอดไปเป็นคลีนซิ่งสติ้กหรือคลีนซิ่งรูปแบบแท่ง ทำให้พกพกง่าย สะดวกในการใช้มากขึ้น

เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว ยกเว้นคนที่ผิวมันมากๆอาจต้องเลือกสูตรให้เหมาะกับผิว

ข้อดี อ่อนโยนต่อผิว ไม่บาดผิว เนื้อลื่นเกลี่ยง่าย ใช้งานง่าย พกพาสะดวก 

ข้อเสีย มีส่วนผสมของน้ำมัน อาจทิ้งความมันไว้บนผิว ถ้าทำความสะอาดออกไม่หมดอาจทำให้อุดตันรูขุมขนได้ 
 

การเลือกคลีนซิ่งเป็นสิ่งสำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวเราและไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบคัน และต้องทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด เพราะการดูแลผิวเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนท่านใดสนใจ สร้างแบรนด์คลีนซิ่ง พรีมา แคร์ โรงงานผลิตคลีนซิ่ง มาตรฐาน GMP มีประสบการณ์ มากว่า 20 ปี สามารถให้คำแนะนำท่านในการพัฒนาสูตร ผลิตคลีนซิ่ง ที่ตอบโจทย์ทุกสภาพผิวตาม ความต้องการแบบ ONE STOP SERVICE สามารถติดต่อสอบถามพรีมา แคร์เพื่อรับคำปรึกษา ได้เลยนะคะ