การดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิถีพิถัน มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ช่วยให้ผิวของเรา นุ่ม ชุ่มชื่นไม่แห้งกร้าน และดูมีสุขภาพดี เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยชะลอริ้วรอยได้อีกด้วย อย่างที่รู้กันดี สภาพผิวของคนเรามีความแตกต่างกันออกไป มีทั้ง ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิว ซึ่งจำเป็นต้องบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ทั้งสิ้น เราจึงต้องเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเราเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) คืออะไร

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จำเป็น ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ป้องกันผิวแห้ง ลอก คัน หรือระคายเคืองได้ ซึ่งพบได้ทั้งใน ครีม เจล โลชั่น หรือแม้กระทั่งในโฟมล้างหน้า โดยมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ที่ดี จะรวม Active Ingredients ทั้ง 3 ประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ไว้ทั้งหมด ได้แก่

ประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์

1. Occlusives ที่มีคุณสมบัติช่วยเคลือบผิว ช่วยชะลอการสูญเสียน้ำบนขั้นผิว
2. Humectants สารช่วยเพิ่มน้ำในชั้นผิว ช่วยดูดน้ำให้ผิวฉ่ำน้ำ 
3. Emollients สารออกฤทธิ์ที่ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พวกกรดไขมันต่างๆ ที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวให้ผิวเนียนละเอียด และป้องกันน้ำไหลออก

นอกจากนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ที่ดีนั้น จะต้องดูดซึม หรือซึมซาบเข้าชั้นผิวได้ดี ออกฤทธิ์ได้เร็ว และคงอยู่บนชั้นผิวได้นานด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ และที่สำคัญต้องไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองผิวได้ 

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ช่วยอะไรบ้าง? สำคัญยังไง?

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เปรียบเสมือนอาหารผิว ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งหรือขาดน้ำ กลับมาดูชุ่มชื้น อิ่มเอิบ แข็งแรง ดูสุขภาพดี โดยทำงานหลักๆ ดังนี้

1. เติมความชุ่มชื้นให้ผิว: มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ช่วยเติมน้ำและป้องกันการสูญเสียน้ำ ให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
2. ผิวเรียบเนียน: มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น
3. ลดการระคายเคืองผิว: ช่วยลดอาการคัน ผื่นแดง ลดการระคายเคืองผิวได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำให้จึงต้องมี มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ในรูทีนการดูแลผิวแบบ Skin cycling
4. เตรียมผิวสำหรับแต่งหน้า: ผิวที่ชุ่มชื้นจะช่วยให้เครื่องสำอางติดทน เนียนสวย ไม่เป็นคราบ
5. ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย: เพราะผิวที่แห้ง หยาบกร้านเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดร่องริ้วรอยลึก การบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยเติมผิวให้อิ่มฟู เต่งตึง โดยมอยเจอร์ไรเซอร์บางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวได้ด้วย เผยผิวดูอ่อนเยาว์ ยืดหยุ่นขึ้น

วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ให้เหมาะกับสภาพผิว

การเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆตามมาได้ หากใครยังไม่รู้สภาพผิวของตัวเองว่าเป็นแบบไหน หาคำตอบได้ที่ >>>  ทำความรู้จักสภาพผิวหน้า ผิวของเราเป็นแบบไหนกันนะ <<< โดยสามารถแบ่งประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ตามสภาพผิวได้ดังนี้

1.  มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สำหรับคนผิวแห้ง (Dry skin)

ลักษณะผิวจะค่อนข้างแห้งและขาดน้ำ มักเป็นผิวที่รักษาความชุ่มชื้นได้ยาก จึงต้องมองหา มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สูตรที่มีส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน (Oil-based moisturizer) เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้น้ำหรือความชื้นจากผิวระเหยออกไปได้ง่าย ซึ่งเนื้อของผลิตภัณฑ์อาจมีความข้นหรือหนืดมากกว่าปกติ เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันโจโจ้บา จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี ช่วยสร้างเกราะป้องกันบนผิว ล็อคความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) แนะนำ: CKP 01

2.  มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สำหรับคนผิวมัน ผิวผสม (Oily skin)

คนที่มีผิวมัน เป็นสิวง่าย มักคิดว่า มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วคนผิวมันมักมีปัญหาผิวขาดน้ำด้วย จึงผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ การบำรุงผิวด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) จึงสำคัญ เพราะถ้าผิวได้รับความชุ่มชื้นและมีความชื้นที่เหมาะสม ผิวก็จะไม่ผลิตน้ำมันออกมาเกินความจำเป็น คนที่มีผิวมันจึงควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทที่แห้งเร็ว ซึมซาบไว ไม่เหนียวเนอะหนะ อย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก และสูตร Oil-Free หรือ Non-Comedogenic เพื่อป้องกันการอุดตันรูขุมขน และเกิดสิวได้ง่าย

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) แนะนำ: CHY 19

3.  มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สำหรับคนผิวปกติ (Normal skin)

เป็นผิวที่สมดุลดี ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป สามารถเลือกใช้ ได้ทั้ง Water-based moisturizer และ Oil-based moisturizer ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพอากาศ อย่างเช่น หน้าหนาวอาจใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เนื้อเข้มข้นได้ แต่ถ้าหน้าร้อน อาจต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ที่มีความบางเบามากกว่า เพื่อให้ไม่เหนอะหนะระหว่างวัน

4.  มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สำหรับคนผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารเคมีระคายเคือง หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ในการช่วยบำรุงผิวได้อย่างอ่อนโยน

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) แนะนำ: CGE 48

มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) ควรใช้ตอนไหน

• หลังล้างหน้า: การทามอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) หลังล้างหน้าจะทำให้ผิวได้รับการบำรุงได้ดีที่สุด เพราะน้ำบนผิวจะช่วยให้สารต่างๆซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
• ก่อนการแต่งหน้า: ช่วยให้เมคอัพเกาะติดผิวได้ดีขึ้น
• เมื่อผิวรู้สึกแห้งกร้าน: ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) บำรุงผิวหากรู้สึกแห้ง คัน ระคายเคืองผิว ขาดความชุ่มชื้น
• ในสภาวะอากาศแห้ง: อย่างเช่นเมื่อเปิดแอร์ตอนนอน หรือช่วงหน้าหนาว ต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) บำรุงเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวเสมอ เพื่อป้องกันผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย

หากสนใจผลิตครีม พัฒนาสูตร มอยเจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) เป็นของตนเอง หรือต้องการปรึกษาสร้างแบรนด์ความงาม ติดต่อพรีมา แคร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง อาหารเสริม ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ได้ทุกช่องทางเลยนะคะ

Prema care: We care for your Brand เพื่อนคู่คิด ดูแลอย่างเข้าใจ ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ช่องทางการติดต่อ

• Line: @premacare หรือ https://bit.ly/AddLinePremaCare
• Tel: 080-810-8109