Niacinamide หรือ วิตามิน B3 เป็นส่วนประกอบที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในวงการความงามและสุขภาพ สารนี้ได้รับการยอมรับและใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณในการรักษาสุขภาพผิว จากข้อมูลโบราณคดี พบว่าชาวอียิปต์และชาวจีนมีการใช้พืชที่มี Niacinamide ในการรักษาผิวพรรณ สารนี้มีความสามารถในการลดการอักเสบของผิวและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จนมาถึงปัจจุบัน Niacinamide ได้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเนื่องจากความสามารถในการปรับสภาพผิว ลดจุดด่างดำ และเพิ่มความกระจ่างใส
ตั้งแต่ปี 2010 ถึงปัจจุบัน ตลาดเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ 10% Niacinamide เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย แนวโน้มคาดการณ์ถึงปี 2030 แสดงให้เห็นว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตสูง
| ปี | ตลาดทั่วโลก (%) | ตลาดประเทศไทย (%) |
| 2010 | 5 | 1 |
| 2015 | 10 | 3 |
| 2020 | 15 | 7 |
| 2023 | 20 | 12 |
| 2030(คาดการณ์) | 25 | 20 |
Niacinamide วัตถุดิบที่มีความโดดเด่นด้านเครื่องสำอาง และ เป็นวัตถุดิบที่ได้รับการยอมรับในด้านประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณ ซึ่งพบว่าสามารถช่วยบำรุงและดูแลผิวพรรณได้มากมาย ดังนี้
• ลดการอักเสบของผิว: Niacinamide ช่วยลดการอักเสบและรอยแดงของผิวหนัง
• เพิ่มความชุ่มชื้น: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิว
• ปรับสภาพสีผิว: ช่วยลดจุดด่างดำและทำให้สีผิวสม่ำเสมอ
• ลดการสร้างน้ำมัน: ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า
ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นการดูแลผิวพรรณ ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างเครื่องสำอางแบรนด์ดังๆ ต่อไปนี้ ที่มีจัดจำหน่ายในตลาดเครื่องสำอางของประเทศไทย
Niacinamide เป็นวัตถุดิบที่สามารถละลายน้ำได้ดี จึงสามารถนำไปพัฒนาสูตรเป็นเครื่องสำอางได้หลากหลายรูปแบบ โดยกลุ่มเครื่องสำอางที่นิยมใช้ Niacinamide เป็นส่วนประกอบได้แก่
• เซรั่มหน้า
• ครีมบำรุงผิว
• มาส์กหน้า
• โลชั่นกันแดด
• โทนเนอร์
• ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
• ขนาดสินค้า:
o 30-50 มล.: ขนาดที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น แนะนำให้เลือกขนาดเล็กเพื่อลดต้นทุนและทดลองตลาด
• ราคา:
o 800-1,500 บาท: ควรตั้งราคาในช่วงนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดและยังคงมีกำไร
• ช่องทางการขาย:
o Online: เช่น Lazada, Shopee ซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมากและมีความสะดวกสบาย
o Offline: ร้านค้าเครื่องสำอางชั้นนำ เช่น Watsons, Boots
• การโฆษณา:
o Social Media: เช่น Facebook, Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้
o Influencer Marketing: ใช้ผู้มีอิทธิพลในวงการความงามในการรีวิวสินค้า
o Content Marketing: สร้างบทความเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีการใช้ Niacinamide
การเจาะกลุ่มเป้าหมายคือสิ่งสำคัญ โดยการทำการตลาดที่เน้นไปที่ปัญหาผิวที่ลูกค้าประสบอยู่ การสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการและการใช้เทคโนโลยีเช่นการโฆษณาแบบ Programmatic จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ การทดสอบผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการและการรับรองมาตรฐานจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้า
การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลกจะช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาดที่ชัดเจนและสามารถวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่มี 10% Niacinamide มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดประเทศไทย ด้วยประโยชน์ที่ชัดเจนของ Niacinamide ต่อผิวพรรณ การทำการตลาดที่ตรงจุดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
แหล่งที่มาของข้อมูล:
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
จันทร์ - เสาร์
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์