สาวๆหลายคนอาจมีคำถามว่าสภาพผิวของตนเองนั้นเป็นผิวประเภทไหน จะสังเกตได้อย่างไร และจะเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนอย่างไร
สาวๆหลายคนอาจมีคำถามว่าสภาพผิวของตนเองนั้นเป็นผิวประเภทไหน จะสังเกตได้อย่างไร และจะเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนอย่างไร วันนี้พรีมาแคร์จะขอไขข้อสงสัยให้กับคุณเองค่ะ
ผิวธรรมดา (normal skin type)
เป็นผิวที่ไม่แห้งและไม่มันจนเกินไป คนที่มีผิวหน้าธรรมดา มักจะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้
• มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้าน้อย โดยเฉพาะเรื่องกระ ฝ้า หรือสิว
• ผิวหน้ามักไม่แพ้อย่างรุนแรง ถ้าแพ้ก็แพ้แบบเล็กน้อย
• รูขุมขนไม่กว้างมาก รูขุมขนที่มองเห็นได้ชัดเจนมีน้อย
• เห็นได้ชัดเจนว่าผิวหน้ามีความกระจ่างใส
ผิวผสม (combination skin type)
สำหรับใครที่มีผิวผสม ผิวหน้าของคุณอาจเป็นผิวธรรมดา บางบริเวณอาจเป็นผิวแห้ง หรือเป็นผิวมัน โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่าทีโซน (T-zone) ซึ่งรวมตั้งแต่ผิวหน้าบริเวณจมูก หน้าผาก และแก้ม ซึ่งลักษณะผิวในแต่ละบริเวณ ต่างก็ต้องการดูแลอย่างเฉพาะเจาะจง
ใครที่มีผิวผสม มักจะสังเกตผิวตนเองได้ดังนี้
• รูขุมขนมักจะกว้างกว่าผิวธรรมดา และรูขุมขนมักจะเปิด
• เนื่องจากรูขุมขนเปิด มักจะมีสิวอุดตันหัวดำ (blackhead) เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณทีโซน
• ผิวมักจะมีความมันเงา
ผิวแห้ง (dry skin type)
ผิวแห้งมักจะแห้งกร้าน แตก ลอก หรืออาจอักเสบและคันได้ง่าย ในกรณีที่ผิวแห้งมาก ๆ ผิวหนังมักจะหลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ ซึ่งลักษณะผิวแบบนี้ เป็นลักษณะผิวที่บอบบางเป็นอย่างมาก
จะรู้ได้อย่างไรว่าลักษณะผิวเป็นผิวแห้ง
• มักมองไม่เห็นรูขุมขนเลย หรือเห็นได้น้อยมาก ๆ
• ผิวไม่ค่อยกระจ่างใส แห้งกร้าน
• มีผื่นแดง ๆ หรือรอยแดง ๆ ที่ผิว
• ผิวมีความยืดหยุ่นน้อย
• เห็นรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ได้อย่างชัดเจน
ปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาที่เกิดจากผิวแห้ง ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
• สภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศเย็น แห้ง หรือมีลมพัดแรง
• แสงแดด รังสียูวี
• การอาบน้ำที่นานเกินไป โดยเฉพาะการอาบน้ำอุ่น
• สบู่และเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง
• ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ
จะดูแลผิวแห้งอย่างไร ให้สดใส ไม่แห้งกร้าน
1. ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีความอ่อนโยน ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง
2. ไม่ควรขัดผิวบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน
3. ทุกครั้งหลังอาบน้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น (moisturizer) ที่ออกแบบมาสำหรับผิวแห้ง
4. ในกรณีที่ผิวแห้งมาก อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เป็นครีม (creams) มากกว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบโลชั่น (lotions) เนื่องจากครีมจะมีความเป็นน้ำมัน และจะกักเก็บความชื้นให้ผิวได้มากกว่า
ผิวมัน (oily skin type)
ผิวมันมักเกิดขึ้นในช่วยวัยรุ่น ช่วงที่ฮอร์โมนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ความร้อน และความชื้นของสภาพอากาศ นอกจากนี้ความเครียดก็ส่งผลทำให้ผิวมีความมันส่วนเกินได้เช่นกัน
ลักษณะของผิวมันที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน
• รูขุมขนขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
• ผิวดูมันวาว จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำ
• ปัญหาสิวเป็นปัญหาเด่นของผิวมัน ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ
การดูแลผิวมันให้ผิวพรรณของคุณมีสุขภาพดี
1. ผิวมันมักจะเกิดสิวได้ง่าย แต่ให้จำไว้ว่า การบีบสิวจะเป็นการกระตุ้น ทำให้สิวเกิดขึ้นมาอีก รวมถึงทำให้เกิดสิวอักเสบ และรอยด่างดำ
2. ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง การล้างหน้าบ่อย จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นการกระตุ้นทำให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากขึ้น
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมัน
4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (noncomedogenic) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้
ผิวแพ้ง่าย (sensitive skin)
นอกจากผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวธรรมดาแล้ว อีกหนึ่งลักษณะผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ คือ ผิวที่แพ้ง่าย (sensitive skin)
ลักษณะของผิวแพ้ง่าย สามารถสังเกตได้ดังนี้
• ผิวมีการอักเสบได้ง่าย ลักษณะเด่นชัดของการอักเสบ คือ ผิวแดง คัน แสบร้อน รวมถึงแตกแห้ง
• มักเกิดหลังจากการใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง
ถ้าคุณรู้ว่าผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นการแพ้ โดยเฉพาะสารและองค์ประกอบบางชนิดในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รู้แบบนี้แล้วคงหมดข้อสงสัยแล้วใช่ไหมละคะ พรีมาแคร์หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้สาวๆ ได้นำไปใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวกัน
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
จันทร์ - เสาร์
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์