สำหรับทุกคนที่ อยากสร้างแบรนด์ครีม เครื่องสำอาง หรือทำแบรนด์อาหารเสริม เป็นของตัวเองควรอ่านบทความนี้ เพราะเราจะเน้นเรื่อง ช่องทางการจัดจำหน่าย Distribution Channel ( ภายในประเทศ ) กว่าจะหาโรงงานผลิตครีมที่เป็นโรงงานมาตรฐาน ผลิตครีม ผลิตอาหารเสริม ทำสินค้าดีๆมาแล้วจะขายที่ไหนดี? มักจะเป็นคำถามที่ทุกคนมีอยู่ในใจเสมอ ยิ่งเราขยายช่องทางจัดจำหน่ายได้มากเท่าไหร่ นั้นก็คือยอดขายที่กลับมามากขึ้นเท่านั้น นอกจากยอดขายแล้วยังมีอีกส่วนที่สำคัญก็คือ การรับรู้แบรนด์ ( Brand Awareness ) โดยช่องทางการจัดจำหน่ายจะแบ่งเป็น Online กับ Offline

ช่องทาง Online

เจ้าของแบรนด์สามารถขายได้เอง หรือรับตัวแทนจำหน่ายด้วยก็ได้เช่นกัน ช่องทางทั่วไปอย่างเช่น Facebook, Fanpage, IG, Line, Website, Market Place เช่น Lazada Shopee ฯลฯ ข้อดีของ Market Place คือ ค่า GP ต่ำ ต่อมาคือ Web shopping ซึ่งค่า GP จะค่อนข้างสูง เช่น Kovy, Beautycool ฯลฯ โดยแต่ละเว็บไซต์อาจจะมีค่า GP ที่มากน้อยแตกต่างกัน ไม่ว่าช่องทางไหนอย่าลืมเช็ครายละเอียดกันก่อนขาย สามารถเลือกตามความเหมาะสมเลยค่ะ แต่ในท้ายที่สุดก็ควรมีทุกสื่อเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างการรับรู้แบรนด์นั้นเอง

ช่องทาง Offline

ออฟไลน์มีหลากหลายช่องทางมาก ซึ่งสำหรับใครที่อยากนำสินค้าเข้าห้าง หรือวางจำหน่ายกับ Beauty Store ต่างๆ ควรศึกษาไว้คร่าวๆ อาจได้ช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้าอีกทางด้วยค่ะ ในส่วนของค่า GP นั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละท่าน ซึ่งมากน้อยไม่เท่ากันค่ะ

1. Cable TV / TV Shopping ค่า GP40 ขึ้นไป
   เช่น TV Direct, True Select, O shopping ฯลฯ มักจะมีฐานลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดและวัยของลูกค้าในกลุ่มนี้เป็นรุ่นอายุ 35+ หลายเจ้าสามารถขายได้หลักแสนหลักล้าน ต่อรอบการออกรีวิว(ทางTV) เพราะลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายนี้เชื่อถือ TV และสามารถจ่ายเงินปลายทางได้
    
2. Catalog ค่า GP40 ขึ้นไป
   เช่น Seven Catalog, Friday Catalog กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน และมักเน้นพื้นที่ต่างจังหวัด ( อย่าลืมหน่าเดี๋ยวนี้แคตตาลอคก็มี Application กันหมดแล้ว )
    
3. Modern Trade ค่า GP50 ขึ้นไป

• Department Store เช่น The Mall, Central, Robinson ฯลฯ ก่อนอื่นควรทำแบรนด์ให้ตอบโจทย์กับคนที่เดินห้างด้วยนะคะ พูดกันง่ายๆเช่น ถ้าเราจะนำสินค้าเข้าไปขายที่ Central สินค้าตัวนั้นจะเป็นแบบไหน ลูกค้าที่ซื้อของที่ห้างนี้มีรูปแบบการใช้เงินอย่างไร และใช่กลุ่มเป้าหมายของสินค้าของเรารึป่าว ควรตั้ง Position Brand และคุมอัตลักษณ์ของแบรนด์กันอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความหน้าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเราเมื่อต้องนำเสนอกับทาง Department Store
• Hyper Market เช่น Big C, Tesco Lotus
• Super Market เช่นTops, Home Fresh Mart, Foodland, Villa Market, Max Value
• Speciality Store
  Beauty Store เช่น Watsons, Boots, Matsumoto, Tsuruha, Beauty Market
  Drugstore ร้านขายยา
  Organic Natural
• Convenience Store ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7 eleven, CJ Express, Family Mart, Lawson
• Cash and Carry ร้านค้าส่ง เช่น แมคโคร

4. Cosmetics Store เช่น eveandboy, BEAUTRIUM, SunCosmate, Beautymarket, Beauty Max Store
   Traditional Trade ร้านค้าขายเครื่องสำอางรายย่อย
   Nearly to Modern Trade ร้านค้ารายใหญ่ที่อยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ

นอกจากช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม เจ้าของแบรนด์ครีมทุกท่านก็ควรทำการตลาดให้กับแบรนด์สินค้าควบคู่กันไปด้วยนะคะ ซึ่งมีหลายช่องทาง หลากหลายเทคนิคมากๆ ทุกคนที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ผลิตครีม ผลิตเครื่องสำอาง, เวชสำอาง ผลิตอาหารเสริม อยากทำเป็นอาชีพเสริมหรือพัฒนาจนกลายมาเป็นรายได้หลัก สินค้าแบบไหนขายดี ฯลฯ ทุกคำถามลองมาปรึกษาเจ้าหน้าที่พรีมาแคร์ก่อนได้นะคะ เรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาลูกค้าทุกท่าน ที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่าย!