หน้าร้อนมาแล้ววว เลือกครีมกันแดดยังไงให้ชัวร์ ผิวหน้าไม่โทรม หน้าไม่หมอง ไม่ดูแก่ก่อนวัย ต้องอ่าน เพราะพรีมา แคร์ รวบรวมทริคดีๆในการเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามาฝาก เพราะครีมกันแดดนั้นสำคัญ เป็นไอเทมที่ต้องใช้ทุกวันแม้อยู่บ้าน! ถ้าไม่อยากหน้าพัง เข้าคลินิคบ่อยๆเราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะคะทุกคนนน จะได้ไม่ต้องมารักษาทีหลังกันนะคะ
หน้าร้อนมาแล้ววว เลือกครีมกันแดดยังไงให้ชัวร์ ผิวหน้าไม่โทรม หน้าไม่หมอง ไม่ดูแก่ก่อนวัย ต้องอ่าน เพราะพรีมา แคร์ รวบรวมทริคดีๆในการเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามาฝาก เพราะครีมกันแดดนั้นสำคัญ เป็นไอเทมที่ต้องใช้ทุกวันแม้อยู่บ้าน! ถ้าไม่อยากหน้าพัง เข้าคลินิคบ่อยๆเราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะคะทุกคนนน จะได้ไม่ต้องมารักษาทีหลังกันนะคะ
ความแตกต่างหลักระหว่างครีมกันแดดแบบ Physical และครีมกันแดดแบบ Chemical นี้คือวิธีป้องกันความเสียหายจากรังสียูวี โดยครีมกันแดดแบบ Physical เป็นครีมกันแดดแบบสะท้อนรังสียูวีที่สร้างความเสียหายให้กับผิว ส่วนผสมทั่วไปที่ใช้ในครีมกันแดดแบบ Physical ได้แก่ Titanium Dioxide หรือ Zinc Oxide ซึ่งแบบ Physical มักจะระคายเคืองน้อยกว่าแบบ Chemical ส่วนกันแดดแบบ Chemical มักมีส่วนผสมของสารเคมี เช่น Oxybenzone, Avobenzone และ Homosalate ซึ่งจะดูดซับรังสียูวีไม่ให้ผ่านไปสู่ผิวหนัง แต่เนื่องจากสารเคมีที่ออกฤทธิ์โดยค่า SPF ที่สูงนั้น สามารถระคายเคืองต่อผิวหนังได้ จึงไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อ่านคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย ของครีมกันแดดทั้ง 2 ประเภทเพิ่มเติมได้ที่: หมัดต่อหมัด ครีมกันแดด Chemical กับ Physical เลือกอะไรดี
เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า อย่างเช่น
ผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือเลือกครีมกันแดดที่ผลิตจากธรรมชาติ หรือที่ผลิตออกมาเพื่อผิวบอบบางโดยเฉพาะจะดีที่สุด ผู้ที่มีผิวบอบบางจึงเหมาะกับครีมกันแดดประเภท Physical มากกว่า เนื่องจากครีมกันแดดหน้าประเภทนี้ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองน้อยกว่า
ผู้ที่มีผิวแห้ง เลือกใช้ครีมกันแดดหน้าแบบเนื้อครีมได้ เนื้อครีมที่เข้มข้นจะทำให้ผิวลดการสูญเสียน้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้นได้นานขึ้น แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
ผิวมัน ควรเลือกครีมกันแดดเนื้อเจล เพราะเนื้อเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันที่จะทำให้หน้ามันมากขึ้น ผู้ที่มีผิวมันจึงเหมาะกับครีมกันแดดแบบ Physical มากกว่าเนื่องจากที่ส่วนผสมของ Zinc Oxide ที่จะช่วยควบคุมความมันให้ผิว
ผิวเป็นสิว เลือกผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Zinc Oxide เพราะมีคุณสมบัติช่วยรักษาสิวได้ และควรเลือกเนื้อครีมแบบโลชั่นหรือน้ำนมที่บางเบากว่าเนื้อครีม ไม่ทำให้หนักผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอมที่จะมาก่อกวนผิว ทำให้เกิดการอุดตันที่ผิวได้
มองหาครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB หรือที่ระบุว่าเป็น Broad Spectrum เพราะรังสี UVA สามารถแทรกซึมลึกเข้าไปในชั้นผิวทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย เม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหย่อนคล้อยได้ ส่วน รังสี UVB ทำลายผิวหนังชั้นบน ทำให้ผิวไหม้ ผิวคล้ำเสีย ซึ่งทั้งสองเป็นตัวการทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ จึงควรมองหาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ในการป้องกัน UVB โดยเลือกที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ 97% ขณะที่ค่า SPF 50 จะยอมให้รังสีทะลุผ่านได้เพียง 2% เท่านั้น และการป้องกันรังสี UVA ให้มองหาค่า PA อ่านเพิ่มเติมที่>>> รู้ไว้ ค่า SPF และ PA ในครีมกันแดดบอกอะไร ทำไมสำคัญ นอกจากนี้ควรมองหาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันแสงสีฟ้า(Blue light) ได้ด้วย เพราะ Blue light อันตรายกว่าที่คิด >>> ภัยร้ายทำลายผิว จากแสง Blue Light
ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากพาราเบน โดยพาราเบนเป็นสารเคมีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเนื่องจากเป็นสารกันบูดที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ แถมยังราคาถูก แต่จากการศึกษา พบว่า พาราเบนระคายเคืองต่อผิวหนัง เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็ง และที่สำคัญยังรบกวนฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธ์ได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เช่น ส่วนผสมจากน้ำมัน น้ำหอม สี สารเคมีต่างๆ และที่สำคัญสำหรับท่านใดที่เป็นสายดำน้ำ ดูปะการังด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งต้องตรวจเช็คให้ดีเพราะมีกฎหมายออกมาแล้วว่าห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีบางชนิดเพราะจะทำให้ปะการังฟอกขาวและตายได้ ฝ่าฝืนมีโทษปรับด้วยนะคะ อ่านต่อที่ >>> ครีมกันแดดไปทะเล เลือกอย่างไรไม่ทำร้ายปะการัง
ควรเลือกครีมกันแดดหน้าที่เนื้อเหมาะแก่การใช้ทาซ้ำได้ระหว่างวัน เพราะควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แม้ว่าครีมกันแดดนั้นจะเคลมว่า Water Resistance กันน้ำ กันเหงื่อก็ตาม เพราะเนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไทยค่อนข้างร้อน ครีมกันแดดจึงมีโอกาสหลุดลอกได้ง่าย และก็ไม่สามารถกันน้ำได้ 100% จึงควรทาซ้ำระหว่างวันทุกๆ 2 ชั่วโมงหรือทุกครั้งที่พักจากกิจกรรมทางน้ำ การเลือกใช้เนื้อที่ซึมง่าย เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ หรือแบบสเปร์ยพกระหว่างเดินทาง จึงเป็นครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ได้ดี
ครีมกันแดดหน้าเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ และเป็นไอเทมที่ต้องใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวของเราให้ห่างไกลจากความหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัยและปัญหาผิวต่างๆที่ถ้าเป็นแล้วรักษาเป็นหมื่น!!เลยนะคะ ซึ่งครีมกันแดดก็มีให้เลือกหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามกิจกรรมที่หลากหลาย การมีครีมกันแดดไว้ใช้มากกว่า 1 ตัวจึงเป็นเรื่องปกติ ยังไงก็ลองนำทริคดีๆที่ทางพรีมา แคร์ รวบรวมมาให้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับการใช้งานและสภาพผิวของแต่ละคนกันนะคะ แต่ถ้าสนใจสร้างแบรนด์ครีมกันแดดเมื่อไรอย่าลืมนึกถึงพรีมา แคร์ นะคะ เรารับผลิตครีมกันแดด พัฒนาสูตรครีมกันได้ จะสั่งทำครีมกันแดดสร้งแบรนด์ แบบไหนติดต่อสอบถามเราได้ทุกช่องทางเลย เรารับให้คำปรึกษาฟรีค่ะ รับข้อมูลข่าวสารดีๆอัพเดตก่อนใครได้ที่ Line OA @premacare หรือสแกนได้เลย
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
จันทร์ - เสาร์
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์