Product Stability Test ควรทำก่อนสร้างแบรนด์ครีมเครื่องสำอางที่ต้อง(ยอม)รอ

สร้างแบรนด์ครีม ทำไมต้องรอผลเทสก่อน บริษัทพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม มีคำตอบ

          ก่อนสร้างทำแบรนด์ครีมกับบริษัทโรงงานรับผลิตครีม เจ้าของแบรนด์หลายๆ ท่าน คงรู้สึกว่าทำไมถึงต้องทดสอบผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน และทำไมแต่ละบริษัทรับสร้างแบรนด์ครีมถึงมีขั้นตอนการพัฒนาตลอดไปถึงกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ทำไมบางที่ไม่เคยพูดถึงการทดสอบต่างๆ รับออร์เดอร์และผลิตสินค้าให้ได้เลยอย่างรวดเร็ว ทำไมบางโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางครีมถึงมีขั้นตอนทดสอบมากมาย ใช้เวลาระดับหนึ่งถึงจะสามารถผลิตสินค้าได้ วันนี้พรีมา แคร์ จะมาให้ข้อมูลกันค่ะ การทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ ทำไมถึงมีความสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้ก่อนที่จะผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายค่ะ
          เริ่มด้วยความหมายกันก่อนค่ะ “การทดสอบความคงตัว” หรือ "การทดสอบการคงสภาพของผลิตภัณฑ์"   (Product Stability Test) เป็นขั้นตอนการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าลักษณะของผลิตภัณฑ์จะยังคงมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ หรือคุณสมบัติทางเคมีตลอดจนถึงการปนเปื้อนต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด  โดยจะมีปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง  ทั้งภายนอกและภายในที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ 
          โดยปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพสินค้า ได้แก่ อุณหภูมิ แสง ออกซิเจน ความชื้น ระยะเวลาการเก็บรักษา เป็นต้น ส่วนปัจจัยภายใน ได้แก่ ค่า pH การเกิดปฏิกิริยาต่างๆทางเคมี การไม่เข้ากันของผลิตภัณฑ์กับบรรจุภัณฑ์ การไม่เข้ากันระหว่างวัตถุดิบที่เลือกใช้ในสูตร เป็นต้น

          Product Stability Test  จะจำแนกความคงสภาพของผลิตภัณฑ์ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. ความคงสภาพทางกายภาพ หมายถึง คุณสมบัติทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ที่เราสามารถสัมผัสได้ เช่น สี กลิ่น ลักษณะเนื้อ เป็นต้น
  2. ความคงสภาพทางเคมี หมายถึง การที่ผลิตภัณฑ์มีปริมาณสารสำคัญอยู่ครบตามปริมาณที่ระบุไว้ในฉลาก และ สามารถตรวจสอบการเกิดการเสื่อมสลาย ทำได้ด้วยการวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญในผลิตภัณฑ์
  3. ความคงสภาพทางจุลชีพวิทยา หมายถึงผลิตภัณฑ์จะต้องคงความปราศจากเชื้อหรือความสามารถในการต้านทาน การเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีววิทยาได้ในระดับที่กำหนดและประสิทธิภาพของสารต้านจุลชีพที่มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ โดยตรวจดูด้วยวิธี Total Plate Count และ Challenge Test

          การทดสอบความคงสภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งานเป็นเหมือนการทวนสอบว่า โรงงานได้มีการประเมินสูตรตำรับที่พัฒนาขึ้นมาว่ายังคงมีประสิทธิภาพที่ดีตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์นั่นเอง  ซึ่งโดยทั่วไป  วิธีการทดสอบความคงสภาพของผลิตภัณฑ์มีทั้ง หมด 3 วิธี คือ การทดสอบเบื้องต้น ( Preliminary Stability Test)  การทดสอบในแบบสภาวะเร่ง (AcceleratedStability Test ) และการทดสอบแบบสภาวะการเก็บรักษาจริงจนถึงวันหมดอายุการใช้งาน(Shelf Test) เพื่อย่นระยะเวลาแต่ยังคงความมีคุณภาพของสินค้าอยู่    
สำหรับโรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอาง เวชสำอาง โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้วิธีทดสอบแบบสภาวะเร่ง (Accelerated Stability Test ) เพื่อประเมินประสิทธิภาพและทำนายวันหมดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะดูการเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ (Appearance) เช่น สี (Color) กลิ่น (Odor) ค่า pH ความหนืด (Viscosity) องค์ประกอบที่เป็นนํ้า (Water Content) และการทดสอบการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา  โดยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์เริ่มจากวันเเรกที่สังเกตเทียบกับวันที่ตรวจสอบจนครบเวลาที่กำหนด

          รายละเอียดสำหรับการทดสอบแบบสภาวะเร่ง (Accelerated Stability Test ) สามารถทำได้โดยการนำผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบ ไปทำการจัดเก็บเก็บในสภาวะต่างๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  โดยทำการทดสอบในหลายๆ สภาวะเร่ง ได้แก่ 

  1. สภาวะเร่งโดยอุณหภูมิ : การแยกชั้น การตกตะกอน เปลี่ยนสี กลิ่น pH Viscosity เป็นต้น
  2. สภาวะเร่งโดยแสง การเปลี่ยนสี กลิ่น ทดสอบโดยแสงแดด และ UV lamp
  3. สภาวะเร่งโดยแรงโน้มถ่วงของโลก : การแยกชั้น ตกตะกอน ทดสอบโดยการ Centrifuge 3,000 รอบ เป็น เวลา 15 นาที 

          สำหรับพรีมา แคร์ ในฐานะบริษัทโรงงานรับผลิตครีม เวชสำอาง เครื่องสำอาง เราได้ใช้วิธีการทดสอบในแบบสภาวะเร่ง (Accelerated Stability Test ) โดยเก็บในสภาวะต่างๆทั้งหมด 5 สภาวะ คือ

  1. ทดสอบในสภาวะร้อน(50C) คือ ช่วงอุณหภูมิ 50 องศา เป็นเวลา 2 เดือน ตรวจทุก 1 สัปดาห์
  2. ทดสอบในสภาวะเย็น (4C) คือ ช่วงอุณหภูมิ 4 องศา เป็นเวลา 2 เดือน ตรวจทุก 1 สัปดาห์
  3. ทดสอบในสภาวะแสงยูวี (SUN) เป็นเวลา 2 เดือน ตรวจทุก 1 สัปดาห์
  4. ทดสอบในสภาวะอุณหภูมิห้อง (RT) คือ อุณหภูมิห้องประเทศไทย เป็นเวลา 1-3 เดือน ตรวจทุก 1 สัปดาห์ หรือ อาจจะเป็น1-2 ปี ตรวจทุก 3 เดือน
  5. Heat cool cycle คือ อุณหภูมิ 4 องศา และ 50 องศา สลับกัน 24 ชม. เป็นเวลา 2 เดือน ตรวจทุก 1 สัปดาห์

          ซึ่งสูตรตำรับที่มีการพัฒนาต่างๆ จะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้   ก่อนนำไปประเมินความเข้ากันได้ระหว่างผลิตภัณฑ์กับบรรจุภัณฑ์  (products Compatibility Test ) ต่อไป

          พรีมา แคร์ เรา ผู้นำโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง รูปแบบ OEM/ODM ที่ได้รับรางวัลจากภาครัฐมากมาย   ในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านการผลิต   เรายึดมั่นในการส่งมอบคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต   และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน   เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพที่ดี ตลอดเวลา 16 ปี  คุณสามารถวางใจได้ว่าเราจะไม่ปล่อยผ่าน สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือผิดกฎหมายออกสู่ตลาดค่ะ   สนใจปรึกษาผลิต สร้างแบรนด์ครีม เครื่องสำอาง ติดต่อเราได้ทุกช่องทางนะคะ

 

ตรวจสอบข้อมูลโปรโมชั่น เพื่อสร้างแบรนด์ครีม ทำแบรนด์อาหารเสริม ได้จาก link นี้ได้เลยค่ะ --> โปรโมชั่น "สร้างแบรนด์ครีม" "ทำแบรนด์อาหารเสริม

บทความน่ารู้สร้างแบรนด์ ทำแบรนด์ แนะนำ

มาตรฐาน GHPs คืออะไร มีกี่ประเภท ต่างจากมาตรฐาน HACCP อย่างไร?

มาตรฐาน GHPs คือ ระบบการจัดการความปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ สำหรับโรงงานผลิตอาหารหรือผู้ประกอบการนำมาใช้ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค...

Product Stability Test ควรทำก่อนสร้างแบรนด์ครีมเครื่องสำอางที่ต้อง(ยอม)รอ

สร้างแบรนด์ครีม ทำไมต้องรอผลเทสก่อน บริษัทพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม มีคำตอบ...

มาตรฐาน ISO คืออะไร เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและบริการ

เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ หากอยากประสบความสำเร็จ มาตรฐาน ISO คือ สิ่งสำคัญที่เจ้าของกิจการควรทำความเข้าใจและให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ...

ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE

เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์

รับรองคุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน

แลปผลิต ครีม อาหารเสริม

สถานที่ตั้ง ส่วนโรงงาน

55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110

สถานที่ตั้ง ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า

111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

เบอร์โทร ออฟฟิศ

02-886-3956 ถึง 57 กด 0

เบอร์โทร ลูกค้าสัมพันธ์

0808-108-109

วันทำการ

จันทร์ - เสาร์

เวลาทำการ

08.30 - 17.30