“ฟักทอง” ผักสีเหลืองทอง ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอก วันนี้พรีมา แคร์ ขอชวนมาดู 8 คุณประโยชน์ของฟักทอง สารอาหารที่คุณไม่ควรมองข้าม ฟักทองช่วยบำรุงอะไรบ้างตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

8 ประโยชน์จากฟักทอง ฟักทองช่วยบำรุงสุขภาพอย่างไรบ้าง

1. ฟักทองช่วยบำรุงสายตา

ฟักทองมีวิตามินเอสูง ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา รักษาสายตา ปกป้องสายตาจากการถูกทำลาย รวมถึงลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับสายตา อย่างโรคตาบอดกลางคืน หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม เพราะยังมีมีลูทีน (Luteins) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตาจากอายุที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ในฟักทองยังมีวิตามินซีและวิตามินอีที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่มาทำร้ายดวงตาด้วย

2. ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

อย่างที่กล่าวไว้ในข้อข้างต้นเนื่องจากในฟักทองมีวิตามินซี วิตามินอี และที่สำคัญคือสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด โดยมีการศึกษายืนยันด้วยว่าอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งคอ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม

3. ฟักทองบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น

ฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ ลูทีน และซีแซนทีน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและอันตรายจากรังสี UV ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดอย่างริ้วรอยดูลดลง นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนี่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง ถ้าขาดคอลลาเจนไปอาจทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึงได้ วิตามินซีจึงจะไปช่วยทำให้ผิวพรรณดูเรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้นจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ

4. ฝักทองช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยวิตามินเอช่วยในการผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และวิตามินซีก็ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรคต่างๆได้ดียิ่งขึ้น

5. ฝักทองมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ฟักทองมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานได้

6. ทานฟักทองช่วยควบคุมน้ำหนัก

ใครกำลังควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนักอยู่ ขอแนะนำเมนูจากฟักทองเลยค่ะ ด้วยคุณสมบัติของฟักทองที่แคลอรี่ต่ำ มีปริมาณน้ำสูง ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย แต่กากใยอาหารสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะนอกจากช่วยคุมหิว อิ่มนาน ลดความอยากอาหารแล้ว ยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง ขับถ่ายได้ดีขึ้น ป้องกันปัญหาท้องผูกได้ด้วย

7. ฟักทองช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ

ในฟักทองมีแร่ธาตุที่สำคัญมากมายต่อระบบเลือด ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี และแมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ เหมาะสำหรับคนที่มีระบบเลือดไม่ค่อยดี ขอแนะนำให้ลองหาฟักทองมาทานในมื้ออาหารเป็นตัวช่วยบำรุงเลือดได้ดีมากๆเลยล่ะค่ะ

8. ฟักทองช่วยลดบวม ลดการอักเสบในร่างกาย

ใครที่มีแพลนไปทำศัลยกรรม มองหาตัวช่วยบรรเทาอาการอักเสบจากบาดแผลหลังทำศัลยกรรม อย่ามองข้ามฟักทองเป็นอันขาดเลยนะคะ เพราะในฟักทองเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดการอักเสบ อาการบวมช้ำ รักษาอาการติดเชื้อได้ดี จึงช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โดยอาจรับประทานฟักทองสด ฟักทองนึ่ง ฟักทองอบ ฟักทองปั่น หรือรับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้ ขอแนะนำ >>> LOBO

ฟักทองเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถึงแม้ว่าประโยชน์จะมีมากมายแต่ก็ควรรับประทานอย่างพอดี เน้นความสม่ำเสมอไม่มากไปไม่น้อยไปจะดีที่สุดนะคะ ทานอย่างพอเหมาะพอดี รวมถึงการทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงแบบองค์รวมนะคะ

สุดท้ายนี้ท่านใดสนใจสร้างแบรนด์อาหารเสริมลดบวม หรือพัฒนาสูตรอาหารเสริมสามารถปรึกษาพรีมา แคร์ได้ทุกช่องทางเลยนะคะ เราเป็นโรงงานรับผลิตอาหารเสริมมาตรฐาน GMP มั่นใจได้เลยถึงมาตรฐานการผลิตและปลอดภัยทุกกระบวนการนะคะ

ที่มา:

https://women.trueid.net/detail/laQexl8NLB1a

https://www.watsons.co.th/th/blog/health-wellbeing-th/7-ประโยชน์ของฟักทองช่วย